VPN ย่อมาจาก Virtual Private Network คือเทคโนโลยีที่ช่วยเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่อยู่ในที่ต่างๆกันผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างเครือข่ายเสมือนส่วนตัว (Private Network) ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อให้ข้อมูลไม่ถูกดักจับหรือถูกแฮกเกอร์และสามารถเข้าถึงเนื้อหาต่างๆได้เช่นเดียวกับเป็นภายในเครือข่ายเดียวกัน ในการใช้งาน VPN จะมีการเข้ารหัสข้อมูลก่อนส่งผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย เพื่อป้องกันการถูกดักจับและอ่านข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งานมีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
Microsoft เป็นผู้คิดค้นและใช้งาน VPN ครั้งแรกในปี 1996 เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ต่อมาเมื่อปี 1999 พวกเขาได้จัดตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า NetScreen Technologies เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี VPN แบบใหม่ที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งต่อมาได้รับความนิยมและใช้งานกันอย่างแพร่หลายในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานสำหรับการทำงานที่มีความปลอดภัยสูง เช่น การเข้าสู่ระบบที่ต้องการการยืนยันตัวตน หรือการใช้งานสำหรับการเข้าถึงเนื้อหาแบบจำกัดในบางประเทศที่มีการจำกัดการเข้าถึงบางเว็บไซต์และบริการอินเทอร์เน็ตต่างๆ โดย VPN ยังได้รับการพัฒนาต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใช้งานในปัจจุบัน
การเชื่อมต่อ VPN ประกอบด้วย 2 รูปแบบหลักได้แก่
Remote Access VPN
1. Remote Access VPN: เป็นการเชื่อมต่อ VPN ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายส่วนตัวผ่านอินเทอร์เน็ตได้จากที่ไกลโดยใช้อุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเป็นตัวกลาง เช่น โน๊ตบุ๊ค หรือ มือถือ โดย Remote Access VPN จะใช้โปรแกรม VPN Client เพื่อเชื่อมต่อ VPN Server ที่เป็นส่วนของเครือข่ายส่วนตัว
Site to Site VPN
2. Site-to-Site VPN: เป็นการเชื่อมต่อ VPN ระหว่างเครือข่ายสองแห่ง โดย Site-to-Site VPN จะใช้อุปกรณ์ VPN Gateway หรือ Firewall เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายสองแห่งเข้าด้วยกันผ่านอินเทอร์เน็ต โดยการเชื่อมต่อ Site-to-Site VPN นั้นมักจะใช้โปรโตคอล IPSec ในการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ในอนาคต VPN ยังคงมีความสำคัญและแพร่หลายอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการใช้อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญอย่างมากในชีวิตประจำวันของเรา การใช้งานจะช่วยป้องกันการแฮกเกอร์และผู้ไม่หวังดีจากการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาและบริการออนไลน์ที่มีการจำกัดการเข้าถึงได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเปิดเผยสถานที่ตั้งหรือการใช้งานของเขา นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการเข้าถึงเนื้อหาและบริการออนไลน์จากต่างประเทศที่มีการจำกัดการเข้าถึง ในอนาคต VPN จะยังคงเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการใช้งานอินเทอร์เน็ต
Cr: Cisco, @lagopett
ลูกค้าที่ใช้บริการจากเรา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
