Telegram ยูนิคอร์นที่เติบโตด้วยทีมเพียง 30 คน
Telegram มีพนักงานแค่ 30 คน แต่สร้างมูลค่า 1.1 ล้านล้านบาทได้อย่างไร?
ในโลกของสตาร์ทอัพที่เน้นการเติบโตอย่างรวดเร็ว หลายคนอาจคาดหวังว่าบริษัทเทคโนโลยีระดับยูนิคอร์นจะต้องมีพนักงานนับพันและออฟฟิศสุดล้ำ แต่ Telegram กลับหักล้างสมมติฐานนี้ทั้งหมด
Telegram แอปส่งข้อความชื่อดังที่ก่อตั้งโดย พาเวล ดูรอฟ (Pavel Durov) ได้กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แม้จะมีทีมงานเพียงประมาณ 30 คน และไม่มีฝ่ายทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นทางการก็ตาม โดยมีมูลค่าบริษัทที่ประเมินล่าสุดอยู่ที่กว่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท
โมเดลธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร: ไม่ขายข้อมูล ไม่ง้อโฆษณา
ต่างจากคู่แข่งอย่าง WhatsApp หรือ Facebook Messenger ที่ขับเคลื่อนรายได้ด้วยโฆษณา Telegram เลือกที่จะไม่ขายข้อมูลผู้ใช้งาน และไม่แทรกโฆษณาลงในประสบการณ์การใช้งาน
รายได้หลักของ Telegram มาจากบริการระดับพรีเมียม เช่น
Telegram Premium — ให้ผู้ใช้งานสมัครสมาชิกรายเดือนเพื่อรับฟีเจอร์พิเศษ เช่น:
- ความเร็วในการดาวน์โหลดที่สูงขึ้น
- สติกเกอร์เฉพาะทาง
- อัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่กว่าปกติ
ทีมงาน 30 คน ทำงานอย่างไร?
นักธุรกิจชาวอินเดียชื่อดัง ฮาร์ช โกเอ็นกา (Harsh Goenka) เปิดเผยบนแพลตฟอร์ม X ว่า Telegram มีทีมงานเพียง 30 คนเท่านั้น ไม่มี HR ไม่มีออฟฟิศถาวร และทุกคนถูกคัดเลือกโดย พาเวล ดูรอฟ เอง ผ่านการประเมินจากผลงานระดับโลกหรือการแข่งขันด้านโปรแกรมมิ่ง
ดูรอฟเคยกล่าวว่า
“ทีมวิศวกรของเราสามารถทำงานได้เทียบเท่ากับบริษัทที่มีพนักงานหลักร้อยหรือพันคน”
เคล็ดลับอยู่ที่ ระบบที่เสถียรเรียบง่าย และ วัฒนธรรมองค์กรที่ปลอดราชการ ทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว และนวัตกรรมเกิดขึ้นได้ต่อเนื่อง
Blockchain คืออนาคต: Telegram กับ TON (Toncoin)
Telegram ยังไม่หยุดอยู่แค่แอปแชต แต่ยังได้พัฒนา TON (The Open Network) ซึ่งเป็นบล็อกเชนที่ออกแบบมาให้รวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และรองรับการใช้งานในระดับแมส
TON คือหัวใจของโครงการ Web3 ภายใต้ Telegram ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 1 พันล้านคน โดยมีเป้าหมายรวมบริการสื่อสาร แอปพลิเคชัน และการเงินแบบไร้ศูนย์กลางเข้าไว้ด้วยกัน
ตัวเลขน่าสนใจ:
- สิ้นปี 2023: Telegram ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ต้นปี 2024: เพิ่มการลงทุนเป็น 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- รายได้จากสินทรัพย์ดิจิทัลในปีเดียว: มากถึง 335 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (~12,400 ล้านบาท)
องค์ประกอบแห่งความสำเร็จของ Telegram
- ความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก
ด้วยฟีเจอร์อย่าง Secret Chat และการเข้ารหัสแบบ End-to-End ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าไม่มีใครแอบดูข้อความของตนได้ - รองรับกลุ่มขนาดใหญ่และช่องกระจายข้อมูล
สร้างกลุ่มได้สูงสุด 200,000 คน และไม่มีข้อจำกัดจำนวนผู้ติดตามใน Channel - เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์แบบไร้รอยต่อ
เปลี่ยนอุปกรณ์ใช้งานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เครื่องเดิมเหมือน WhatsApp - ไม่มีสำนักงานใหญ่ ไม่มีการควบคุมจากรัฐ
Telegram เป็นองค์กรแบบ “ไร้พรมแดน” ลดความเสี่ยงจากการถูกรัฐบาลควบคุม และเพิ่มเสรีภาพในการพัฒนา
บทสรุป
Telegram คือบทพิสูจน์ว่า
“องค์กรเล็กแต่แกร่ง” สามารถเปลี่ยนโลกได้จริง
ด้วยการยึดหลักความเป็นส่วนตัว ประสิทธิภาพ และการพัฒนาที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ Telegram กลายเป็นหนึ่งใน Tech Unicorn ที่ทั้งนักลงทุนและผู้ใช้งานทั่วโลกจับตามองอย่างใกล้ชิด
cr.https://www.facebook.com/share/p/1EdvGxV489/
ติดต่อเรา: https://www.novelbiz.co.th/about-us/