หากคุณใส่รูปภาพลูกโป่งที่ผูกกับม้านั่งเข้าไป แล้วลองถาม GPT-4 ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเชือกถูกตัด จะได้คำตอบกลับมาว่าบอลลูนเหล่านั้นจะลอยจากไป
“เราใช้เวลาถึง 6 เดือนในการทำให้ GPT-4 ปลอดภัยและเข้าที่มากกว่าเดิม GPT-4 มีแนวโน้มที่จะไม่ตอบเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นไว้ถึง 82% และจากการการประเมินผลภายในมีโอกาสที่จะตอบบนพื้นฐานความจริงมากกว่า GPT-3.5 ถึง 40%”
นี่เป็นข้อความที่ OpenAI กล่าวถึง GPT-4 ที่มีความสามารถทำข้อสอบระดับสูงได้คะแนนดีมากขึ้นกว่า GPT-3.5 ในหลายวิชา โดยเฉพาะวิชาด้านคำนวณ หรือการเขียนโปรแกรม ในส่วนคำถามที่พยายามล่อหลอกให้ตอบข้อมูลที่ถูกห้ามไว้ (adversarial question) นั้น GPT-4 ยังหลบเลี่ยงได้ไม่สมบูรณ์แต่ก็ดีขึ้นกว่า GPT-3.5 หรือ ChatGPT อย่างชัดเจน
หลากหลายธุรกิจกำลังเข้าหา GPT-4 จากประสิทธิภาพและกระแสการใช้งาน ChatGPT ที่กำลังเกิดขึ้นทำให้หลายบริษัทเริ่มเข้ามาจับมือและหยิบเทคโนโลยีของบริษัท OpenAI ไปใช้งาน เช่น new Bing ของ Microsoft ที่ลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่เดินเกมเร็วและเปิดตัวหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่นำ AI มาปรับใช้
ทำให้หลังจากการเปิดตัว GPT-4 ก็มีบริษัทและภาคธุรกิจอื่นๆ เข้ามาอยู่ในหน้าแรกของการเปิดตัว สามารถเข้าไปดูรายชื่อบริษัททั้งหมดที่จับมือกับ GPT-4 ได้ที่ OpenAI Product สามารถเข้าไปทดลองใช้งาน ChatGPT Plus ได้แล้ววันนี้ในราคา 20 เหรียญฯ ต่อเดือน หรือเข้าไปใช้งานฟรีผ่าน new Bing แชทบอทของ Microsoft
อนาคตจากนี้จะเป็นอย่างไร การประมวลผลทางด้านภาษาธรรมชาติหรือ NLP (Natural Language Processing) จะเปลี่ยนไปแค่ไหนภายในระยะเวลาอันใกล้ เราจะได้เห็นบริการใหม่ๆ เกิดขึ้นแน่นอน เช่น การถามตอบปัญหาสุขภาพที่เข้าใจได้มากขึ้น การค้นหาสินค้าที่ต้องการ รายละเอียด ราคา พร้อมเปรียบเทียบ จากการสั่งงานด้วยเสียง และอื่นๆ อีกมากมาย แล้วประเทศไทยจะเปลี่ยนจาก User เป็น Maker ได้อย่างไร? เราทุกคนต้องช่วยกันเท่านั้น
Cr: www.blognone.com/node/133009 , techsauce.co/news/openai-gpt-4