Rachel James จาก AbbVie ใช้ AI ยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ขององค์กร
Rachel James หัวหน้าฝ่าย Information Security ของ AbbVie บริษัทเภสัชกรรมยักษ์ใหญ่ กำลังนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ขององค์กร โดยมุ่งเน้นไปที่การตรวจจับภัยคุกคามที่ซับซ้อนและตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
AI กับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์: แนวทางของ AbbVie
การตรวจจับภัยคุกคามเชิงรุก
AbbVie มุ่งเน้นการใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลจากแหล่งต่างๆ เช่น บันทึกการใช้งาน ระบบเครือข่าย และข้อมูลภัยคุกคาม เพื่อระบุรูปแบบและความผิดปกติที่อาจบ่งชี้ถึงการโจมตีทางไซเบอร์ที่กำลังจะเกิดขึ้น AI สามารถเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถตรวจจับภัยคุกคามที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยเห็นมาก่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การตอบสนองต่อเหตุการณ์อัตโนมัติ
เมื่อตรวจพบภัยคุกคาม AI สามารถช่วยในการตอบสนองต่อเหตุการณ์โดยอัตโนมัติ โดยการแยกภัยคุกคาม กำจัดมัลแวร์ และกู้คืนระบบที่ได้รับผลกระทบ การตอบสนองอัตโนมัติช่วยลดระยะเวลาที่ระบบมีความเสี่ยง และลดผลกระทบของการโจมตีทางไซเบอร์
การปรับปรุงการวิเคราะห์ช่องโหว่
AI สามารถช่วยในการวิเคราะห์ช่องโหว่ในระบบและแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น โดยการระบุจุดอ่อนที่อาจถูกโจมตีและแนะนำวิธีการแก้ไข AI ยังสามารถช่วยในการจัดลำดับความสำคัญของช่องโหว่ที่ต้องได้รับการแก้ไขก่อน โดยพิจารณาจากความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
การนำ AI มาใช้ในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ AbbVie แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นขององค์กรในการปกป้องข้อมูลและสินทรัพย์ดิจิทัลจากภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนใน AI ช่วยให้ AbbVie สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่สำคัญจะได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุด #Cybersecurity #AI #AbbVie #InformationSecurity #ThreatDetection
ติดต่อเรา คลิ้ก